ไผ่ เป็นไม้พุ่มหลายชนิดและหลายสกุลใน วงศ์หญ้า Poaceae (เดิมคือ Gramineae) วงศ์ย่อย Bambusoideae เป็นไม้ไม่ผลัดใบใน ขึ้นเป็นกอ ลำต้นเป็นปล้องๆ เช่น ไผ่จีน (Arundinaria suberecta Munro) ไผ่ป่า (Bambusa arundinacea Willd.) ไผ่สีสุก (B. flexuosa Munro และ B. blumeana Schult.) ไผ่ไร่ (Gigantochloa albociliata Munro) ไผ่ดำ (Phyllostachys nigra Munro).
ผลผลิตจากไผ่ที่สำคัญคือ หน่อไม้ ซึ่งเป็นอาหารสำคัญของคนไทย นิยมทานกันมากในเกือบทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน นอกจากนี้ไม้ไผ่ยังมีคุณสมบัติพิเศษทั้งด้านความแข็งแรงและยืดหยุ่นที่เหนือกว่าวัสดุสังเคราะห์หลายชนิด ดังนั้นจึงยังได้รับความนิยมในการทำเครื่องมือเครื่องใช้หลายประเภท ใช้ชะลอน้ำที่เข้าป่าชายเลน นั่งร้านก่อสร้างและบันได เป็นต้น
ไผ่ในประเทศไทยในประเทศไทยนั้น พบไผ่อยู่ 30 ชนิด ดังนี้
ไผ่ข้าวหลาม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cephalostachyum pergracile )
ไผ่คายดำ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Gigantochloa compressa)
ไผ่โจด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Arundinaria cililta)
ไผ่ซาง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrocalamus strictus)
ไผ่ซางคำ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrocalamus latiflorus)
ไผ่ซางนวล (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrocalamus membranaceus)
ไผ่ซางหม่น (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrocalamus sericeus )
ไผ่ตง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrocalamus aspe)
ไผ่ตากวาง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Gigantochloa kurzii)
ไผ่บง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa nutans)
ไผ่บงคาย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Gigantochloa hosseusii)
ไผ่บงดำ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa tulda)
ไผ่บงป่า (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa longispatha)
ไผ่บงหนาม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa burmanica)
ไผ่ป่า (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa bambos)
ไผ่เป๊าะ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrocalamus giganteus)
ไผ่ผาก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Gigantochloa densa)
ไผ่เพ็ก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Vietnamosasa pusilla)
ไผ่รวก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Thyrsostachys siamensis)
ไผ่รวกดำ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Thyrsostachys oliveri)
ไผ่ไร่ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Gigantochloa albociliata)
ไผ่ลำมะลอก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa longispiculatar)
ไผ่เลี้ยง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa mulfiplex)
ไผ่หวาน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa sp.)
ไผ่สีสุก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa blumeana)
ไผ่หก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrocalamus hamiltonii)
ไผ่หลอด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Neohouzeaua mekongensis)
ไผ่หอม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa polymorpha)
ไผ่เหลือง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bambusa vulgaris)
ไผ่เฮียะ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cephalostachyum virgatum)
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9C%E0%B9%88
วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
Papaya
มะละกอจ้า...
http://siweb.dss.go.th/otop/show_head.asp?id=88
มะละกอแก้ว
แยมมะละกอดิบ
มะละกอแช่อิ่ม
มะละกอแช่อิ่มสูตร 2
มะละกอดองเปรี้ยว
ข้าวเกรียบมะละกอ
มะละกอแผ่น
มะละกอเชื่อม
มะละกอแก้ว Update 2/6/2552
แยมมะละกอดิบ Update 28/6/2550
มะละกอแช่อิ่ม Update 16/7/2550
มะละกอดองเปรี้ยว Update 16/7/2550
เยลลี่มะละกอ Update 2/6/2552
ซอสมะละกอ Update 2/6/2552
ข้าวเกรียบมะละกอ Update 2/6/2552
ซอสมะละกอชนิดไม่เผ็ด Update 2/6/2552
มะละกอแผ่น Update 2/6/2552
มะละกอแช่อิ่มสูตร 2 Update 2/6/2552
แยมมะละกอสุก Update 28/6/2550
น้ำมะละกอหวานเข้มข้น Update 2/6/2552
มะละกอเชื่อม Update 10/5/2553
ซีเซ้กฉ่ายมะละกอ Update 2/6/2552
ตั้งฉ่ายมะละกอ Update 2/6/2552
มะละกอเค็ม Update 2/6/2552
มะละกอแก้ว สูตร 2 Update 2/6/2552
มะละกอรังนก Update 2/6/2552
มะละกอสามรส สูตรน้ำ Update 2/6/2552
มะละกอใยแก้ว Update 25/8/2552
ซอสมะละกอชนิดเผ็ด Update 1/9/2552
มะละกอดองน้ำส้ม Update 13/10/2552
มะละกอดองน้ำปลาหรือซีอิ๊ว Update 13/10/2552
มะละกอสามรส Update 2/6/2552
http://siweb.dss.go.th/otop/show_head.asp?id=88
มะละกอแก้ว
แยมมะละกอดิบ
มะละกอแช่อิ่ม
มะละกอแช่อิ่มสูตร 2
มะละกอดองเปรี้ยว
ข้าวเกรียบมะละกอ
มะละกอแผ่น
มะละกอเชื่อม
มะละกอแก้ว Update 2/6/2552
แยมมะละกอดิบ Update 28/6/2550
มะละกอแช่อิ่ม Update 16/7/2550
มะละกอดองเปรี้ยว Update 16/7/2550
เยลลี่มะละกอ Update 2/6/2552
ซอสมะละกอ Update 2/6/2552
ข้าวเกรียบมะละกอ Update 2/6/2552
ซอสมะละกอชนิดไม่เผ็ด Update 2/6/2552
มะละกอแผ่น Update 2/6/2552
มะละกอแช่อิ่มสูตร 2 Update 2/6/2552
แยมมะละกอสุก Update 28/6/2550
น้ำมะละกอหวานเข้มข้น Update 2/6/2552
มะละกอเชื่อม Update 10/5/2553
ซีเซ้กฉ่ายมะละกอ Update 2/6/2552
ตั้งฉ่ายมะละกอ Update 2/6/2552
มะละกอเค็ม Update 2/6/2552
มะละกอแก้ว สูตร 2 Update 2/6/2552
มะละกอรังนก Update 2/6/2552
มะละกอสามรส สูตรน้ำ Update 2/6/2552
มะละกอใยแก้ว Update 25/8/2552
ซอสมะละกอชนิดเผ็ด Update 1/9/2552
มะละกอดองน้ำส้ม Update 13/10/2552
มะละกอดองน้ำปลาหรือซีอิ๊ว Update 13/10/2552
มะละกอสามรส Update 2/6/2552
Banana
กล้วยจ้า...
กล้วย เป็นพรรณไม้ล้มลุกในสกุล Musa มีหลายชนิด เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำไท กล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว กล้วยไข่ กล้วยตานี กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง กล้วยนิ้วมือนาง กล้วยส้ม กล้วยนาค กล้วยหิน กล้วยงาช้าง ฯลฯ บางชนิดก็ออกหน่อแต่ว่าบางชนิดก็ไม่ออกหน่อ ใบแบนยาวใหญ่ ก้านใบตอนล่างเป็นกาบยาวหุ้มห่อซ้อนกันเป็นลำต้น ออกดอกที่ปลายลำต้นเป็น ปลี และมักยาวเป็นงวง มีลูกเป็นหวี ๆ รวมเรียกว่า เครือ พืชบางชนิดมีลำต้นคล้ายปาล์ม ออกใบเรียงกันเป็นแถวทำนองพัดคลี่ คล้ายใบกล้วย เช่น กล้วยพัด (Ravenala madagascariensis) ทว่าความจริงแล้วเป็นพืชในสกุลอื่น ที่มิใช่ทั้งปาล์มและกล้วย
ปลี (ดอก) และผลกล้วย
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์[ซ่อน]
อาณาจักร พืช (Plantae)
ส่วน พืชดอก (Magnoliophyta)
ชั้น พืชใบเลี้ยงเดี่ยว (Liliopsida)
อันดับ Zingiberales
วงศ์ Musaceae
สกุล สกุลกล้วย (Musa)
ข้อมูลทั่วไป[ซ่อน]ชื่อสามัญ Banana
ชื่อวิทยาศาสตร์ Musa
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2
กล้วย เป็นพรรณไม้ล้มลุกในสกุล Musa มีหลายชนิด เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำไท กล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว กล้วยไข่ กล้วยตานี กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง กล้วยนิ้วมือนาง กล้วยส้ม กล้วยนาค กล้วยหิน กล้วยงาช้าง ฯลฯ บางชนิดก็ออกหน่อแต่ว่าบางชนิดก็ไม่ออกหน่อ ใบแบนยาวใหญ่ ก้านใบตอนล่างเป็นกาบยาวหุ้มห่อซ้อนกันเป็นลำต้น ออกดอกที่ปลายลำต้นเป็น ปลี และมักยาวเป็นงวง มีลูกเป็นหวี ๆ รวมเรียกว่า เครือ พืชบางชนิดมีลำต้นคล้ายปาล์ม ออกใบเรียงกันเป็นแถวทำนองพัดคลี่ คล้ายใบกล้วย เช่น กล้วยพัด (Ravenala madagascariensis) ทว่าความจริงแล้วเป็นพืชในสกุลอื่น ที่มิใช่ทั้งปาล์มและกล้วย
ปลี (ดอก) และผลกล้วย
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์[ซ่อน]
อาณาจักร พืช (Plantae)
ส่วน พืชดอก (Magnoliophyta)
ชั้น พืชใบเลี้ยงเดี่ยว (Liliopsida)
อันดับ Zingiberales
วงศ์ Musaceae
สกุล สกุลกล้วย (Musa)
ข้อมูลทั่วไป[ซ่อน]ชื่อสามัญ Banana
ชื่อวิทยาศาสตร์ Musa
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2
วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554
Science for Fun
Sci4Fun "We do not stop playing because we are old ; we grow old because we stop playing."
|
วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
สมุนไพร ใบเตย
สมุนไพร ใบเตย
ใบเตย หรืออีกหนึ่ง สมุนไพรใบเตย ที่คนไทยรู้จักกันดีเพราะนอกจากเราจะใช้ ใบเตย ในการประกอบอาหารหลาย ๆ อย่าง อีกทั้ง ยังให้กลิ่งหอมและทีสำคัญที่สุด สรรพคุณของใบเตย ยังมีอีกมายมายนักคุณอาจจะคิดไม่ถึง นั้นเรามามาดูสรรพคุณและ ประโยชน์ของใบเตย กันเลยดีกว่าค่ะสรรพคุณ / ประโยชน์ ใบเตย
ผลงานการวิจัย
การ ศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่า เตยหอมมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ขับปัสสาวะ ซึ่งฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่กล่าวไปทั้งหมดนั้น ซึ่งมาจากการทดลองในห้องทดลอง นอกจากนี้ได้มีการทำศึกษาวิจัย โดยนำน้ำต้มรากเตยหอมไปทดลองในสัตว์ทด ลองเพื่อดูฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดปรากฏว่าสามารถลดน้ำตาลในเลือดของสัตว์ทดลอง ได้ จึงนับได้ว่าสมุนไพรเตยหอมเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าอีกชนิดหนึ่งสามารถนำมาทำ เป็นเครื่องดื่มรับประทานเองได้
วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
สุนทรภู่
ประวัติสุนทรภู่
วัยเด็ก (พ.ศ.๒๓๒๙ - ๒๓๔๙) แรกเกิด - อายุ ๒๐ ปี
พระสุนทรโวหาร (ภู่) มีนามเดิมว่า ภู่ เป็นบุตรขุนศรีสังหาร (พลับ) และแม่ช้อย เกิดในรัชกาลที่ ๑ กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือนแปด ขึ้นหนึ่งค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช ๑๑๔๘ เวลาสองโมงเช้า ตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๓๒๙ ที่บ้านใกล้กำแพงวังหลัง คลองบางกอกน้อย
สุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าจากกัน ฝ่ายบิดากลับไปบวชที่บ้านกร่ำ เมืองแกลง ส่วนมารดา คงเป็นนางนมพระธิดา ในกรมพระราชวังหลัง (กล่าวกันว่าพระองค์เจ้าจงกล หรือเจ้าครอกทองอยู่) ได้แต่งงานมีสามีใหม่ และมีบุตรกับสามีใหม่ ๒ คน เป็นหญิง ชื่อฉิมและนิ่ม ตัวสุนทรภู่เองได้ถวายตัว เป็นข้าในกรมพระราชวังหลังตั้งแต่ยังเด็ก
สุนทรภู่เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน สันทัดทั้งสักวาและเพลงยาว เมื่อรุ่นหนุ่ม เกิดรักใคร่ชอบพอ กับนางข้าหลวง ในวังหลัง ชื่อแม่จัน ครั้นความทราบถึง กรมพระราชวังหลัง พระองค์ก็กริ้ว รับสั่งให้นำสุนทรภู่ และจันไปจองจำทันที แต่ทั้งสองถูกจองจำได้ไม่นาน
เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. ๒๓๔๙ ทั้งสองก็พ้นโทษออกมา เพราะเป็นประเพณีแต่โบราณ ที่จะมีการ ปล่อยนักโทษ เพื่ออุทิศส่วนพระราชกุศลแด่ พระมหากษัตริย์หรือพระราชวงศ์ ชั้นสูงเมื่อเสด็จสวรรคต หรือทิวงคตแล้ว แม้จะพ้นโทษ สุนทรภู่และจันก็ยังมิอาจสมหวังในรัก สุนทรภู่ถูกใช้ไปชลบุรี ดังความตอนหนึ่งในนิราศเมืองแกลงว่า
"จะกรวดน้ำคว่ำขันจนวันตาย แม้เจ้านายท่านไม่ใช้แล้วไม่มา"
แต่เจ้านายท่านใดใช้ไป และไปธุระเรื่องใดไม่ปรากฎ อย่างไรก็ดี สุนทรภู่ได้เดินทางเลยไปถึงบ้านกร่ำ เมืองแกลง จังหวัดระยอง เพื่อไปพบบิดาที่จากกันกว่า ๒๐ ปี สุนทรภู่เกิดล้มเจ็บหนักเกือบถึงชีวิต กว่าจะกลับมากรุงเทพฯ ก็ล่วงถึงเดือน ๙ ปี พ.ศ.๒๓๔๙
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)