วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

Extreme Super Moon on 03-19-2011

http://news.mthai.com/headline-news/107319.html



ชมปรากฏการณ์ ซุปเปอร์มูน (super moon )พระจันทร์เต็มดวง ใกล้โลก

Mthai news: คืน วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม ทั่วโลกต่างให้ความสนใจกับปรากฏการณ์ “ซูเปอร์มูน” (Supermoon)ดวงจันทร์ใกล้โลก ที่มีระยะใกล้มากที่สุดในรอบ 18 ปี รวมทั้งประเทศไทยที่จะเห็นดวงจันทร์มีขนาดใหญ่และให้แสงสว่างมากที่สุด

ใน วันนี้ ดวงจันทร์จะโคจรเข้าใกล้โลกในระยะ 356,577 กิโลเมตร อีกทั้งยังตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวงพอดี ซึ่งมนุษย์จะเห็นดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ สว่างขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าคุ้มค่าที่จะได้เห็นขนาดของดวงจันทร์เต็มดวง ในรอบ18ปี

หากสังเกต จะเห็น สีเทาเข้มปรากฎบนดวงจันทร์เป็นรูป คล้ายกระต่าย   บริเวณนี้เป็นจุดที่ยานอพอลโล 11 ลงเหยียบดวงจันทร์ ส่วนสีขาวสว่างไสวของดวงจันทร์ เป็นพื้นที่ราบสูง สะท้อนแสงจากพระอาทิตย์กลับมายังโลกได้มากกว่า
รายงานระบุว่า วงโคจรที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุดเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า “เปริจี” (the perigee) ซึ่งการที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกและโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ทิศทางของแรงกระทำต่อโลกมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง ในวันที่ 19 มีนาคม น้ำทะเลจะขึ้นสูงมากกว่าปกติ แต่นักวิทยาศาสตร์ต่างยืนยันแล้วว่าไม่ส่งผลต่อการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติแต่อย่างใด ไม่ควรวิตกกังวล



ปรากฏการณ์ Super Moon
http://www.varietypc.net/webboard/index.php?topic=3799

ปรากฎการณ์ Super Moon คือปรากฎการณ์ที่ดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุด และอาจเกิดผลกระทบต่อโลกได้ โดยมีนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษา ในเรื่องการโคจรของดวงจันทร์ ระบุว่าในวันที่ 19 มีนาคม 2011 นี้ จะเกิดเหตุการณ์ดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลก หรือที่เรียกว่า “lunar perigee” โดยมีระยะห่างเพียง 221,567 ไมล์ ซึ่งทางองค์การนาซ่า ได้แจ้งว่าระยะทางห่างโดยปกติของดวงจันทร์กับโลกจะอยู่ที่ประมาณ 356,577 กิโลเมตร และเนื่องจากดวงจันทร์มีระยะห่างจากโลกไม่เท่ากันในแต่ละคืน เพราะไม่ได้โคจรรอบโลกเป็นวงกลม ทำให้แต่ละเดือน จะมีช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุด หรือที่เรียกว่า Perigee ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ใกล้โลกมากที่สุดในระยะห่างประมาณ 363,104 กิโลเมตร และช่วงที่ดวงจันทร์โคจรห่างโลกมากที่สุด หรือ Apogee อยู่ที่ระยะห่างประมาณ 405,696 กิโลเมตร แต่ช่วงเวลาที่มันโคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุด และยังเป็นดวงจันทร์เต็มดวงด้วย จะมีให้เห็น 2-3 ปีต่อ 1 ครั้งเท่านั้น แต่ในปีนี้ ดวงจันทร์จะอยู่ในจุดที่ใกล้กว่าทุกๆครั้ง ในรอบ 19 ปีที่ผ่านมา

ดัง นั้น ซูเปอร์มูนที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนวันที่ 19 มีนาคมนี้ จึงเป็นปรากฎการณ์ที่น่าจับตาดูมากเลยทีเดียว เพราะเราคงได้เห็นดวงจันทร์แบบใกล้ๆว่าสวยงามเพียงใด

ทั้ง นี้โดยเชื่อกันว่าเมื่อดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลกในระยะที่ใกล้ผิดปกติ แรงดึงดูดของดวงจันทร์ อาจจะส่งผลให้เกิดความหายนะบางอย่างขึ้นบนโลกได้ และอาจจะเกิดผลกระทบกับโลกในด้านภัยพิบัติต่างๆ เช่น การเกิดแผ่นดินไหว และการปะทุของภูเขาไฟ ซึ่งมีผลต่อระดับน้ำในทะเลที่อาจจะก่อให้เกิดคลื่นสึนามิได้ เนื่องจากชั้นบรรยากาศของโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไป โดยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ซุปเปอร์มูน (super moon) ซึ่งการเกิดปรากฎการณ์ Super Moon นี้ จะเกิดขึ้นในวันที่ 19-20 มีนาคม 2554 ซึ่งเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงพอดี โดยที่เราจะมองเห็นพระจันทร์ดวงใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 14% และจะสว่างกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวงปกติถึง 30%

นอก จากนี้ ดวงจันทร์ยังอาจส่งผลให้โลกเกิดน้ำขึ้นน้ำลงมากกว่าปกติก็เป็นได้ ซึ่งโดยปกติดวงจันทร์ก็มีอิทธิพลต่อน้ำขึ้นน้ำลงอยู่แล้ว แต่จากเหตุการณ์ Super Moon นี้อาจมีผลมากกว่าที่เคยเป็นก็ได้ กล่าวคือ ระยะเวลาที่น้ำขึ้นก็ขึ้นสูงมาก ขณะที่เมื่อน้ำลง น้ำก็จะลดลงมากกว่าปกติเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี นายเดวิด ฮาร์แลนด์ นักประวัติศาสตร์อวกาศ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ดวงจันทร์คงไม่ได้มีอิทธิพลถึงขั้นที่จะทำให้โลกเกิดภัยพิบัติได้ขนาดนั้น มันอาจจะส่งผลกระทบเพียงแค่ทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงมากกว่าที่เคยเป็นเท่านั้น จะไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดแต่อย่างใด แต่หากเกิดภัยพิบัติใดๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ก็คงเป็นความบังเอิญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดซูเปอร์มูนเท่านั้น ไม่ได้มาจากอิทธิพลของดวงจันทร์อย่างแน่นอน
โดยก่อนหน้านี้ปรากฏการณ์ Super Moon ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีต โดยเกิดในปี 1955, 1974, 1992, และ 2005 และทุกครั้งที่มันเกิด จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศบนโลก เช่น การเกิดสึนามิ ที่คร่าชีวิตผู้คนไปถึงหลายแสนคนในประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งประเทศไทย เพียงสองสัปดาห์ก่อนเกิดซุปเปอร์มูนในเดือน มกราคมปี 2005 และในปีดังกล่าวก็มีภัยพิบัติ และสภาพอากาศที่เลวร้ายเกิดขึ้นบนโลกในช่วงที่เกิดปรากฎการณ์ซูเปอร์มูนพอดี

และจากรายงานภัยพิบัติระบุว่า
ในปี ค.ศ.1938 พายุเฮอริเคนได้เกิดขึ้นพร้อมๆกับซูเปอร์มูน
ในปี ค.ศ.1955 ได้เกิดน้ำท่วมในฮันเตอร์วัลเลย์ ในออสเตรเลียในช่วงซูเปอร์มูนเช่นกัน
และในปี ค.ศ.1974 ซูเปอร์มูนก็เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับพายุไซโคลนเทรซี่ ที่สร้างความเสียหายมหาศาลในเมืองดาร์วิน ออสเตรเลีย
ส่วนในปี ค.ศ.2005 ก่อนที่จะเกิดปรากฎการณ์ซูเปอร์มูนเพียงไม่กี่วันก็มีเหตุการณ์สึนามิเกิด ขึ้นในอินโดนีเซียคร่าชีวิตผู้คนหลายหมื่นคนไปในช่วงเวลานั้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าว ทำให้หลายคนเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่การเกิดซูเปอร์มูนนี้จะมาพร้อมกับภัยพิบัติบางอย่างเช่น กัน
ในปี ค.ศ. 2011  22 ก.พ.เกิดแผ่นดินไหวในเมืองไครซท์เชิร์ช นิวซีแลนด์
11 มี.ค. แผ่นดินไหว ที่ญี่ปุ่น ตามมาด้วย สึนามิ การรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

 

แผ่นดินไหว สึนามิ นิวเคลียร์ บทเรียนจากญี่ปุ่น

  

วิบัติภัยที่เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ ประกอบด้วยพิบัติภัยร้ายแรง 3 อย่าง ในเวลาไล่เลี่ยกัน
1) แผ่นดินไหว
ครั้งนี้ ระดับความรุนแรง เกือบจะสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยมีจารึกกันไว้
แถมยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง
ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ประกาศว่า ความรุนแรงของเหตุแผ่นดินไหว เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ในทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอนชู สูงถึง 9.0 ริกเตอร์ (จากเดิมที่เคยประกาศว่า 8.9 ริกเตอร์)
เกิดความเสียหายต่ออาคาร บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ถนน ทางรถไฟ และชีวิตของผู้คนอย่างทันที

2) คลื่นสึนามิ
หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ได้ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิ สูง 10 เมตร ซัดเข้าถล่มชายฝั่งทะเลหลายจังหวัด
อาคาร บ้านเรือน สนามบิน ท่าเรือ โครงข่ายสาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งหลาย ที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเล ถูกคลื่นถล่มราบเป็นหน้ากลอง เกิดความเสียหายต่อชีวิตประชาชนและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล
3) นิวเคลียร์
หลังเหตุแผ่นดินไหวเพียง 1 วัน ปรากฏว่า เกิดเหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไดอิจิในจังหวัดฟุกุชิมะ (ห่างจากกรุงโตเกียว 240 กม.)

 

www.watchdog.co.th/2011/แผ่นดินไหว-สึนามิ-นิวเคล/

ไม่มีความคิดเห็น: